ระบบ E-Invoice ในประเทศเวียดนาม

ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคม 2565 ประเทศเวียดนามบังคับใช้ ระบบ E-Invoice (ใบแจ้งหนี้ระบบอิเลคโทรนิค) ซึ่งช่วยประหยัดเวลาและเงินของธุรกิจ และส่งผลให้การบริหารงานด้านภาษีมีประสิทธิภาพมากขึ้น  ในการนี้จะมีจากการประกาศนี้ นิติบุคคลแต่ละแห่ง มีหลักปฏิบัติดังนี้

• นิติบุคคลที่จัดตั้งใหม่ ต้องจดทะเบียนเข้าระบบ E-Invoice

• นิติบุคคลที่จัดตั้งอยู่ก่อน และต้องใช้ระบบ E-Invoice ทางสรรพากรจะแจ้งให้เปลี่ยนภายในระยะเวลาที่กำหนด

• นิติบุคคลที่ไม่มีโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต้องใช้งาน E-Invoice สามารถใช้ระบบเดิมได้ แต่ต้องนำส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องตามแบบฟอร์มที่กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา 123 พร้อมกับยื่นแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม

การพัฒนาเรื่อง E-Invoice สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของรัฐบาลเวียดนาม ได้เป็นอย่างดี ในการปฏิรูปการบริหารภาษีและยกเครื่องเศรษฐกิจนอกระบบ E-Invoice ไม่เพียงแต่ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย แต่ยังช่วยลดภาระในการดูแลระบบและช่วยในการกระทบยอดบัญชี ลดการฉ้อโกงในการเรียกเก็บเงิน และรักษาความโปร่งใส

โครงการยกเครื่องใช้ระบบ E-Invoice นี้ ภาครัฐประเมินว่า จะสามารถประหยัดงบประมาณได้ถึง 43.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1 ล้านล้านดอง) หากมีการใช้ใบแจ้งหนี้จำนวน 2.5 พันล้านใบในหนึ่งปี 

กฎระเบียบใหม่เรื่อง E-Invoice นี้สร้างมั่นใจให้กับนักลงทุนต่างชาติได้ว่ารัฐบาลเวียดนามให้ความสำคัญกับการลดต้นทุนการบริหารและการปฏิรูปประเด็นด้านภาษี อย่างไรก็ตาม ธุรกิจต่างๆ มีแนวโน้มที่จะเผชิญกับความท้าทายบางอย่างในช่วงการเปลี่ยนผ่าน และควรศึกษาการเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างรอบคอบเพื่อปรับเปลี่ยนอย่างเหมาะสม

อ่านเพิ่มเติมเรื่อง ระบบภาษีอากรในประเทศเวียดนาม , 3 ขั้นตอน บันไดสู่การใช้ E-Invoice ในประเทศเวียดนาม

หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ด้านการลงทุน และทำธุรกิจในประเทศเวียดนาม ได้ที่ why-vietnam